งานวิ่งมาราธอนไม่ว่าจะเป็นที่ไหนก็ตามเสน่ห์อย่างหนึ่งก็คือ หากไม่เกิดเหตุเหลือบ่ากว่าแรงพวกเค้าจะไม่ยกเลิกงานวิ่งนั้นเด็ดขาด ดังนั้นการวิ่งมาราธอนกลางฝนเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้เป็นปกติ ทีนี้หากเราอยากจะแข่งวิ่งมาราธอนกลางสายฝนแบบนี้ต้องมีการเตรียมตัวอย่างไรบ้าง

เสื้อผ้าต้องพร้อมแต่ไม่เยอะ

เสื้อผ้าเป็นอุปกรณ์สำคัญมากในการวิ่งหน้าฝน เราอาจจะต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าใส่วิ่งใหม่ โดยเน้นเนื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดีไม่อุ้มน้ำ เพื่อลดน้ำหนักของเสื้อผ้าระหว่างวิ่ง สองสีของเสื้อผ้าต้องเปลี่ยนใหม่อาจจะต้องเน้นสีที่ฉูดฉาดสักหน่อยเพื่อให้คนอื่นมองเห็นเวลาวิ่ง ส่วนสาวๆ เราขอเน้นว่าสีอ่อนไม่ควรนะ สีขาวเลิกเลย เสื้อเปียกมาโดนน้ำอีกคงดูไม่จืด

แว่นตา หมวก ต้องมี

วิ่งมาราธอนกลางสายฝน อุปสรรคสำคัญเลยก็คือเม็ดฝนมันกระเด็นเข้าตา เราจะต้องป้องกันเรื่องนี้วิธีการก็ไม่ยากทำได้ด้วยการใส่หมวก โดยหมวกจะมีหลายแบบทั้งแบบคลุมทั้งศีรษะหรือหมวกใส่ธรรมดา ส่วนตัวเราขอแนะนำแบบแรกจะป้องกันได้ดีกว่า สองแว่นตาดำ แม้ว่าวิ่งกลางฝนจะไม่เจอแสงแดดแต่ก็ใส่แว่นเพื่อกันน้ำกระเด็นเข้าตาได้ อย่าลืมว่าหากน้ำฝนกระเด็นเข้าตาอาจจะทำให้ระคายเคืองตาจนวิ่งไม่จบก็ได้

รองเท้า สำหรับวิ่ง

รองเท้าถือว่าเป็นพระเอกในการวิ่งกลางสายฝนเลย เนื่องจากมาราธอนกลางสายฝนแบบนี้เราจะต้องเจอเส้นทางวิ่งลื่นกว่าเดิมอย่างน้อย 30% จากของเดิม นั่นทำให้เราต้องตรวจเช็ครองเท้าของเราด้วยว่าพร้อมไหม ดอกยางครบไหม หากเราวิ่งแล้วลื่นอาจจะเกิดอุบัติเหตุบาดเจ็บระหว่างทางได้ อีกกรณีหนึ่งอาจจะต้องเก็บคู่ใหม่ไปก่อน แล้วหยิบคู่เก่าออกมาลุยแทนเพื่อฝ่าเส้นทางเละๆ ไปได้

โทรศัพท์มือถือ

อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่มองข้ามไม่ได้เลย วันฟ้าฝนเป็นใจจะใส่อะไรก็จัดเลยไม่มีปัญหา แต่วิ่งมาราธอนกลางสายฝนแบบนี้ อาจจะต้องเก็บให้มิดชิดนิดหนึ่ง ห่อด้วยถุงที่มีซิปล็อคกันน้ำเข้าด้วยจะดีมาก (แม้จะมีระบบกันน้ำก็ตาม) หากจัดการได้เราขอแนะนำว่าไม่พกไปจะดีกว่า ป้องกันฟ้าผ่า

ใจต้องนิ่งอย่ากลัว

เราฟิตซ้อมร่างกายมาเป็นอย่างดี พอจะลงแข่งวิ่งมาราธอนกลางสายฝนกลับใจไม่สู้ซะอย่างนั้น เป็นแบบนี้เสียดายโอกาสแย่เลย หากคิดจะแข่งจริงใจต้องนิ่งอย่าไปกลัว ร่างกายเราแข็งแรงเกินกว่าจะเป็นหวัดอยู่แล้ว อยากจะวิ่ง อยากจะแข่งฝนแค่นี้ไม่เป็นอุปสรรคให้คิดแบบนี้ ลงทะเบียน วอร์มอัพร่างกาย ออกวิ่งไปเลย