การฝึกวิ่งมาราธอน ปกติจะใช้เวลา 12-16 สัปดาห์เพื่อฝึกซ้อม แต่แนะนำว่าสำหรับครั้งแรกควรมีเวลามากถึง 16 สัปดาห์ และวิ่งประมาณ 1.75-2 ชั่วโมง เพื่อจะได้ฝึกแบบผ่อนคลาย ไม่หนักจนเกินไป แต่ถ้ามีเวลาแค่ 12 สัปดาห์ก็ควรวิ่ง 2 ชั่วโมงหรือมากกว่านั้นอย่างเป็นประจำ
ความอดทน เป็นสิ่งสำคัญสำหรับมาราธอน การเพิ่มเวลา 10-15 ไปเรื่อยๆ จะทำให้ผู้วิ่งเกิดความเจริญก้าวหน้า อย่าลืมว่าการพักก็เป็นสิ่งสำคัญ ถ้าคุณหักโหมมากเกินไปร่างกายอาจบาดเจ็บ
อีกปัจจัยหนึ่งที่มีความสำคัญ ก็คือ อาหารการกิน คุณควรทานอาหารที่ให้พลังงานเพียงพอ 3-4 ชั่วโมงก่อนการวิ่ง ควรรับประทานอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง, ไฟเบอร์ต่ำ เพื่อป้องกันระบบย่อยอาหารทำแปรปรวน เมื่อซ้อมวิ่งเสร็จแล้ว ควรรับประทานอาหารประเภทโปรตีนและคาร์โบไฮเดรต 30-60 นาทีหลังจากวิ่ง เนื่องจากมันจะเข้าไปช่วยทำให้ร่างกายฟื้นฟู นอกจากนี้ ควรดื่มน้ำทั้งก่อน, ระหว่าง และหลังวิ่งเสร็จ เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ
2 สัปดาห์ก่อนลงสนาม
ทดสอบรองเท้าและเสื้อผ้า ว่าเหมาะสมหรือไม่ เพราะกล้ามเนื้อเท้าจะต้องรับภาระอันหนักหน่วง โดยรองเท้าควรเลือกแบบปกติ รุ่นที่มีน้ำหนักเบาเอาไปเก็บไว้ก่อน เพราะการรองรับแรงกระแทกมีน้อย สำหรับกางเกงวิ่งลองดูว่าบริเวณสะโพกมีรอยตะเข็บหรือไม่ เพื่อไม่ให้มันมากัดตอนวิ่งนานๆ
ควรตัดเล็บเท้าให้มีความพอดี เพราะเล็บที่มีความยาวจนเกินไปอาจกระแทกเข้ากับรองเท้าจนเกิดแผล ส่วนเล็บที่สั้นเกินไปก็ไม่ช่วยปกป้องปลายนิ้วแต่อย่างใด เพราะฉะนั้นปลายเล็บควรเสมอกับขอบปลายนิ้ว นักวิ่งมาราธอนครั้งแรกหลายๆ คนมักเกิดความกังวล ทำให้ซ้อมหนักขึ้นไปอีก หากแต่ช่วงสัปดาห์ท้ายๆ นั้น ไม่เหมาะที่จะหนักอีกแล้ว แต่เป็นช่วงเวลาของการผ่อนคลาย เพื่อเก็บแรงไว้ปล่อยในจริง บางคนจะเกิดอาการกระสับกระส่าย รู้สึกไม่ดี นี่คืออาการหลอน ที่มันจะมากวนใจคุณ แต่ก็จะหายไปเองเมื่อคุณควบคุมสติได้
สัปดาห์สุดท้ายก่อนลงสนาม
ความรู้สึกแย่ๆ จะหวนกลับมาอีกครั้ง คุณจะกังวลด้วยคำถามเดิมๆ เช่น เราพร้อมหรือยัง, เราฝึกซ้อมมามากพอแล้วหรือยัง ถ้าคุณมีเวลามากพอ แนะนำว่าให้ใช้เวลา 1 สัปดาห์ทดสอบการวิ่งมาราธอนโดยสมติว่ามันคือวันวิ่งจริง โดยเริ่มจากตื่นนอนก่อนการวิ่ง 3 ชั่วโมง รับประทานอาหารเช้าตามที่จะกินในวันจริง แล้วเริ่มซ้อมวิ่ง ตามเวลาจริง
วันสุดท้ายก่อนลงสนาม
นักวิ่งมาราธอนครั้งแรกอาจรู้สึกต้องการฝึกซ้อมอีก แต่เป็นเรื่องสำคัญมาก ที่คุณจะต้องพักฟื้นและมีความแข็งแรงมากที่สุด นั่นคือการผ่อนคลาย ทำจิตใจให้สงบ พร้อมรอวันลงแข่งขันในวันพรุ่งนี้เท่านั้น